"รปภ.-ส.ต.ท."โดนหนัก 2 ข้อหาทั้งอนาจาร-ขืนใจดญ.วัย 13 ตร.ส่งตรวจยาเม็ดที่บังคับให้เหยื่อกิน

จากกรณีที่มีผู้ปกครองนำเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี กรณีถูกนายพรหม ฉวีรัมย์ อายุ 42 ปี รปภ.โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศล่อลวงไปที่บ้านแล้วพยายามปลุกปล้ำ จึงวิ่งหนีออกมาให้คนช่วยพาไปแจ้งตำรวจสภ.เมืองปราจีนบุรี ปรากฏว่ากลับโดนส.ต.ท.พันธพัฒน์ ยวงสะอาดธนา ล่อลวงไปที่แฟลตตำรวจแล้วให้กินยา ก่อนพยายามข่มขืน เมื่อวันที่ 5 กันยายน (อ่านข่าว : ดญ.วัย13ไปเยี่ยมเพื่อนที่รพ. เจอรปภ.ปล้ำ พอไปแจ้งความ กลับโดนสตท.ลวนลามซ้ำ

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันนี้  6 กันยายน พ.ต.อ.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี มอบให้ร.ต.ท.หญิงนฤมล ควรรำพึง ร้อยเวรสอบสอบ สภ.เมืองปราจีนบุรี สอบสวนญาติและเด็กเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำผู้เสียหายไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดปราจีนบุรี ให้สหวิชาชีพทำการสอบสวน

พ.ต.อ.สุวรรณ์กล่าวว่า ส.ต.ท.พันธพัฒน์ได้ขอเข้ามอบตัวเมื่อวานช่วงค่ำที่ผ่านมา และได้รับการสั่งการจากพล.ต.ต.วีระชัย วิสุทธิอุทัยกุล ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ให้ดูแลคดีอย่างใกล้ชิดและให้ความเป็นธรรม เนื่องจากคดีเป็นที่น่าสนใจของประชาชนโดยทั่วไป

จากนั้นได้ทำการตรวจค้นห้องพักของด.ต.พันธพัฒน์ที่ห้อง 552 ชั้น 5 แฟลตตำรวจ เนื่องจากมีการกล่าวถึงยาที่ให้เด็กกิน ไม่ทราบว่าเป็นยาอะไร โดยทางเราได้จัดส่งไปตรวจ ตอนนี้รอผลตรวจอยู่ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวให้แพทย์ร.พ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อตรวจสอบร่างกายหาหลักฐาน และจากการตรวจสอบพบบริเวณริมฝีปากซ้ายด้านล่างเป็นแผลถูกกัด

        

  พ.ต.อ.สุวรรณ์กล่าวว่า สำหรับส.ต.ท.พันธพัฒน์ และนายพรหม ซึ่งตำรวจจับกุมตัวมาแล้ว โดยนายพรหมโดนข้อหากระทำอนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ส่วนส.ต.ท.พันธพัฒน์โดนข้อหาหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และข้อหาพรากผู้เยาว์พาไปจากบิดามารดา พร้อมทำการฝากขังเพื่อดำเนินคดีต่อไป 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวส.ต.ท.พันธพัฒน์ไปชี้จุดนำเด็กไปที่ห้องพัก โดยส.ต.ท.พันธพัฒน์ให้การว่า ยาที่ให้เด็กหญิงกินนั้นเป็นยาคลายเครียด ไม่ใช่ยาเสพติดแต่อย่างใด ตนเองได้กินเป็นประจำ

   พ.ต.อ.สุวรรณ์กล่าวอีกครั้งว่า ได้รับการสั่งการจากผู้บังคับบัญชาให้ติดตามคดีเนื่องเป็นคดีที่น่าสนใจกับประชาชน ในชั้นตอนต่อไปคือจะไปทำการตรวจค้นห้องพักของส.ต.ท.พันธพัฒน์ เพื่อค้นหายาเม็ดที่เด็กระบุว่าส.ต.ท.พันธพัฒน์บังคับให้กิน โดยจะส่งตรวจสอบว่าเป็นยาคลายเครียดหรือยาเสพติดกันแน่

  เวลา 15.00 น. ที่ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี พล.ต.ต.วีระชัย วิสุทธิอุทัยกุล ผบก.ปราจีนบุรี ได้ออกคำสั่งที่ 281/2559 โดยให้ส.ต.ท.พันธพัฒน์ออกจากราชการไว้ก่อน

loading...

ที่มา: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1473154493

แชร์สนั่น!! สาวอะโกโก้เขม่นกัน คว้าขวดตีหัวแทงหน้า แต่ไม่อยากเชื่อเลยสาเหตุมันมาจากเรื่องแค่นี้ โธ่เอ๊ย!!

สาวอะโกโก้ เขม่นกันเองในร้าน คว้าขวดตีศีรษะเพื่อนร่วมอาชีพ พร้อมใช้ขวดที่แตกแทงหน้าและร่างกายหลายแผล ก่อนที่ตำรวจจะเข้าคุมสถานการณ์ไว้ได้

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 23 ส.ค.59 ที่บริเวณปากซอย 6 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เกิดเหตุทะเลาะวิวาทและมีการใช้อาวุธทำร้ายกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย

ที่เกิดเหตุพบสาววัยรุ่นเกือบ 20 คน แบ่งข้างเป็นสองฝั่ง กำลังยืนส่งเสียงเอะอะโวยวายกันอยู่ ตรวจสอบพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ น.ส.จันทนิภา กู้เขียว อายุ 22 ปี พนักงานสาวอะโกโก้แห่งหนึ่งของเมืองพัทยา อยู่ในสภาพเลือดท่วมตัว ใบหน้าปูดบวม มีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่คิ้ว หน้าผาก และแขนทั้งสองข้าง

ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ น.ส.กรรณิการ์ มิ่งขวัญ อายุ 20 ปี พนักงานสาวอะโกโก้ร้านเดียวกัน ไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยในมือข้างขวาถือขวดเบียร์ที่แตกเป็นปากฉลาม ตำรวจจึงควบคุมตัว พร้อมยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม ผู้บาดเจ็บ ให้การว่า ระหว่างทำงานเต้นโคโยตี้อยู่ที่ร้านอะโกโก้ ผู้ก่อเหตุซึ่งมาทำงานเป็นวันแรกเมาสุรา ก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุจะยกเท้าใส่ลักษณะเยาะเย้ย ไม่ทราบสาเหตุอะไร เธอจึงเดินเข้าไปถามว่า “มีปัญหาอะไรไหม” จากนั้นก็เริ่มมีปากเสียงอย่างรุนแรง ต่อมาก็ได้นัดมาเคลียร์ปัญหากันนอกร้านบริเวณจุดเกิดเหตุ

เมื่อถึงเวลา ผู้ก่อเหตุ ก็ไม่ได้พูดจาอะไรคว้าขวดเบียร์ที่พกติดตัวมาด้วย ฟาดเข้าที่ศีรษะ 1 ครั้ง จนขวดเบียร์แตกแล้วใช้ปากฉลามแทงเข้าที่ใบหน้าและแขนจำนวนหลาย 10 แผล ก่อนจะมีพลเมืองดีช่วยกันห้ามปรามและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุ

สอบสวนเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุ ให้การปฏิเสธ ตนไม่มีเจตนาเต้นยกเท้าใส่ ผู้บาดเจ็บ โดยยืนยันว่า ผู้บาดเจ็บ เป็นคนเข้ามาหาเรื่องแล้วคิดไปเอง ก่อนที่ตัวเธอจะถูกกระชากออกมาจากนอกร้านแล้วโดนทำร้าย จึงใช้ขวดเบียร์ที่กินอยู่ถือติดออกมาด้วยแล้วทำร้ายคืน เพื่อเป็นการป้องกันตัว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว ผู้ก่อเหตุ ไปสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

loading...

ที่มา:http://www.siamdrama.com/view-683.html

ดราม่ากลางกรุง !! ชาวเน็ตสวดยับไม่สวมหมวก ภาพสาวขี่มอเตอร์ไซค์สุดหรู ขับว่อนกลางกรุงเทพฯ สืบรู้ราคารถคันนี้..ถึงกับยืนตัวแข็ง !!

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก เมื่อมีภาพสาวคนหนึ่งขับมอเตอร์ไซค์ราคาล้าน แต่เธอกลับไม่สวมหมอกกันน็อค และภาพที่พบนั้นอยู่ที่เลียบทางด่วนรามอินทรา เมื่อรูปนี้เผยแพร่ออกไป ด้านชาวเน็ตกลับออกมาแสดงความคิดเห็นกันว่าเธอนั้นควรจะสวมหมวกกันน็อคเผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจะทำอย่างไร และเมื่อลองสืบค้นรถที่เธอขับกลับพบว่าเป็น can-am spyder ซุปเปอร์ไบท์ 3 ล้อ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท แต่ถึงอย่างไรก็ควรสวมใส่หมวกกันน็อคเพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า

loading...

ที่มา:http://www.zliekr.com/2859/

ชาวเน็ตฮือฮา! เจ้าภาพ เนรมิต เมรุ วัดโสมฯ เป็น สวนดอกไม้ มาพร้อมโขนหน้าไฟชุดใหญ่

โลกออนไลน์ ตะลึง การประดับตกแต่ง งาน พิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุวัดโสมนัสราชวรวิหาร ของ คุณแม่พรธิภา พุทธยะศิริ คุณแม่ของดร.ไก่ มัทนาปวีณ์ สาระคุณมนตรี ที่เจ้าภาพ ได้แสดงความไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการ จัดดอกไม้ อย่างงดงามอลังการ พร้อม โขนหน้าไฟ ที่มาแบบจัดเต็ม

เร็วๆ นี้ บนโลกออนไลน์ ได้มีการแชร์ภาพชุด ปฐมบท "นิราลัย by Rainforest" นิทราสุราลัย: หลับอยู่ ณ แดนสรวง เผยแพร่โดย เฟซบุคแฟนเพจ Niralai  เป็นภาพมวลหมู่ดอกไม้จำนวนมาก ที่ถูกจัดแต่งประดับประดาอย่างสวยงามราวเนรมิต ณ เมรุ วัดโสมนัสราชวรวิหาร โดยระบุว่า..

งานพิธีพระราชทานเพลิงศพ คุณแม่พรธิภา พุทธยะศิริ (คุณแม่ของดร. ไก่ มัทนาปวีณ์ สาระคุณมนตรี) ณ เมรุ วัดโสมนัสราชวรวิหาร งานนี้ ดร.ไก่กำชับทีมงานให้จัดงานนี้ออกมาให้ดีที่สุด เพราะหากคุณแม่ได้มีโอกาสมายืนอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ในวันนั้น ท่านอยากให้คุณแม่ของท่านยืนยิ้มอย่างมีความสุขกับสิ่งที่ลูกตั้งใจทำให้ และที่สำคัญ ดร. ไก่ให้อยากแขกทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงานในวันนี้ มีความอิ่มสุขในการร่วมส่งท่านสู่แดนสรวง...

  ทีมงานจึงออกแบบตกแต่งสถานที่โดยใช้งานศิลปะการประดิษฐ์ดอกไม้ไทย มาประยุกต์ใช้ ให้มีความร่วมสมัย โดยเจ้าภาพมีความประสงค์ให้ตกแต่งสถานที่ให้สวยงามดุจสรวงสวรรค์ งานนี้ ออกแบบและตกแต่งสถานที่โดย เรนฟอเรสท์ ภายใต้ชื่อ "นิราลัย by Rainforest" เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจในงานฝีมือของคนไทย

loading...

ที่มา:http://news.truelife.com/detail/86365

สาวท้องจับได้ว่าสาววัยรุ่นแอบเป็นกิ๊กผัว เตะปลายคาง-จับแก้ผ้าริมถนน

เว็บไซต์ เร็นทีวี ของรัสเซีย นำเสนอคลิปวิดีโอสุดป่าเถื่อนที่ได้มาจากชาวบ้านในรัสเซีย โดยสาวจ้ำม่ำลงมือคิดบัญชีกับวัยรุ่นสาวที่แอบเป็นกิ๊กกับสามีตัวเอง โดยผลักจนล้มไปกับพื้นถนน แล้วถ่มน้ำลาย ทุบตี เตะศีรษะอยู่หลายครั้ง ก่อนตัดสินใจกระชากยกทรงแม่สาวน้อยจนเปลือย โดยมีการตะโกนด่าทอและสบถคำหยาบใส่ตลอดเวลา

 “จะเป็นเมียน้อยอีกไหม ฉันตั้งท้องอยู่นะ แต่แกกลับมาแอบกินสามีฉัน รีบลุกขึ้นมาแล้วเดินไปข้างหน้า นางแพศยา”เมียหลวงสบถด่าลั่นถนน

 ถึงแม้ว่ากิ๊กสาวพยายามขอโทษซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่กลับไม่เป็นผล แล้วถูกเมียหลวงเตะเข้าให้ แล้วเพื่อนเมียหลวงกระชากศีรษะไปตามท้องถนน

  แต่เมียหลวงยังแค้นไม่หายจึงทุบตีหลังและเตะก้นสาวจนล้มลงไป ก่อนที่พรรคพวกลากขึ้นมาแล้วให้ไปนั่งพงหญ้าข้างทางเพื่อรอรับการสั่งสอนซ้ำอีก

loading...

พบแล้วศพ 3 นักบินฮ.ตกที่เขาชะเมา เผยอยู่ห่างจากฐานเรดาห์ 500 เมตร เร่งนำร่างลงจากเทือกเขา

กรณีการค้นหาเฮลิคอปเตอร์ ฮิวอี้ สังกัดหน่วยบิน 2034 กองทัพอากาศดอนเมือง ที่ส่งกำลังบำรุงทางอากาศ สถานีสื่อสารเขาชะเมา และขาดการติดต่อที่บริเวณ อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดยังไม่พบเบาะแส หรือสิ่งที่เชื่อมโยงการหายไปของเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย โดยได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ร่วม 100 นาย พร้อมชาวบ้านขึ้นค้นจุดผารองเท้านารี หลังทีมค้นชุดแรกได้กลิ่นน้ำมันและกลิ่นเหม็นเน่า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อ.สุทธิพงษ์ อินทรียงค์ ผู้บัญชาการกรมควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศ พร้อมด้วยพล.ต.สุริยา ปาวรีย์ ผบ.มทบ.19 พ.ต.อ.หัสชัย เรือวมาลัย รองผบก.ภ.จว.จันทบุรี ร่วมแถลงข่าว ระบุว่า เมื่อเวลา 07.15 น.ชุดปฏิบัติการพิเศษกองทัพอากาศ (PJ) ซึงพักค้างคืนอยู่บริเวณสถานีโทรคมนาคม (ฐานเรดาห์) โดยออกเดินเท้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อเข้าค้นหาเป้าหมาย พิกัด QQ 947368 บริเวณหุบรองเท้านารี แต่เนื่องจากเส้นทางมาความลาดชันมาก เจ้าหน้าที่จึงเปลี่ยนเส้นทางไปทางทิศตะวันตกเพื่ออ้อมไปค้นหาจุดที่เฮลิคอปเตอร์ตก เมื่อเดินทางต่อไปทางทิศตะวันตกประมาณ 500 เมตร จากสถานนีเรดาห์ ซึ่งเป็นเทือกเขาสูงชันประมาณ 1,000 เมตร ในพื้นที่เขตจังหวัดระยอง จนเวลา 10.23 น. ก็พบชิ้นส่วนของเฮลิคอปเตอร์กระจัดกระจาย พร้อมร่างของนักบิน 2 นายคือน.ต.พสิษฐ์ เตชะเสน นักบิน (ตท.41) ร.อ.อลงกรณ์ จันทร์กระจ่าง นักบิน (ตท.46) และ พ.อ.อ.วิสุทธิ์ พุทธรักษา เจ้าหน้าที่ช่างอากาศ เสียชีวิตทั้งหมด

ทั้งนี้ จะนำร่างของนักบินและช่างเครื่องทั้ง 3 นาย กลับลงมาจากเขามาทางจังหวัดจันทบุรี คาดว่าจะลำเลียงลงมาได้ภายในวันนี้ และอาจจะใช้เครื่องบินแบล็คฮอกว์มาช่วยลำเลียง แต่ต้องดูสภาพอากาศในช่วงที่เข้าปฏิบัติการด้วย

http://www.khaosod.co.th/

พุ่งตกคลองหัวปักสยอง!! กระบะออกจากวัดดัง ชายหญิงดับ กระเด็นเกลื่อนเจ็บ8

 วันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.คมสัน พฤศวานิช ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา เกิดเหตุรถยนต์กระบะพลิกคว่ำตกลงในคลองปากแพรกถนนเอเชีย 41 หน้าโรงงานยูนิรับเบอร์ ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จึงพร้อมกับพนักงานสอบสวน แพทย์ รพ.ทุ่งสง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

 เมื่อไปถึง พบรถยนต์กระบะสีน้ำเงิน ไม่ทราบยี่ห้อทะเบียนสภาพเก่า จมน้ำอยู่ครึ่งตัวรถ ภายในรถยนต์กระบะมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ศพแรกเป็นคนขับทราบชื่อ คือ นายสำเริง สุขเจริญ อายุ 56 ปี อยู่ ม.2 ต.หนองโดน อ.หนองโดน จ.สระบุรี สภาพคอหักตายคาพวงมาลัยรถ อีกศพ คือ นางอรวรรณ วัฒนสังข์ อายุ 42 ปี อยู่ ม.3 ต.ควนชุม อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช สภาพศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์

 ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บนอนเกลื่อนอยู่ตามจุดต่างๆ และติดอยู่ในรถรวม 8 คน ประกอบด้วย ด.ช.นพดล มีเถื่อน อายุ 1 ขวบ , ด.ช.ธนดล มีเถื่อน อายุ 1 ขวบ , นายพีรพงษ์ จันทร์อ่อน อายุ 47 ปี , น.ส.ช่อทิพ ชูใจ อายุ 19 ปี , นางอาจิน บุญทอง อายุ 66 ปี , นางสุจิน สุขสีแก้ว อายุ 51 ปี , นายกมลรัตน์ เพชรสีทอง อายุ 51 ปี และ ด.ช.ภูวดล เพชรรัตน์ อายุ 5 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ลำเลียง รีบนำส่ง รพ.ทุ่งสง เป็นการด่วน




 จากการสอบสวนทราบว่า นายสำเริง ผู้ตายและคนขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวทำงานอยู่ที่บริษัทปูนซิเมนต์ (ทุ่งสง) จำกัด โดยได้นำญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านไปเที่ยววัดเจดีย์ หรือวัดไอ้ไข่ที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนมัสการที่วัดเจดีย์เสร็จแล้ว ก็พากันกลับที่พักที่ อ.ทุ่งสง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถเสียการทรงตัวเสียหลักลงในร่องกลางถนนสี่เลน ก่อนจะพุ่งลงคลองตรงสะพานหัวปักดินเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว

 ส่วนสาเหตุที่ทำให้รถเสียหลักในครั้งนี้ ทางตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากนายสำเริง คนขับหลับใน เพราะต้องขับรถจาก อ.สิชล ไปยัง อ.ทุ่งสง ระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร และรถยนต์กระบะอยู่ในสภาพเก่า มีผู้โดยสารจำนวนมาก เมื่อขับรถเร็ว ทำให้เสียการทรงตัว จนเป็นเหตุให้เสียหลักพลิกคว่ำ ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ร่วมกันชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้ว จึงมอบให้ญาตินำไปจัดการตามประเพณีต่อไป

loading...

http://www.khaosod.co.th/

นาทีตร.บุกจับ"บรรยิน"คารีสอร์ต โดยมี"น้องป้อนข้าว"โบรกเกอร์สาวคนสนิทอยู่ด้วยตลอด

 เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบควบคุมตัวพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรมช.พาณิชย์ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ มาสอบปากคำที่กองปราบ และเตรียมแถลงข่าวการจับกุมอย่างเป็นทางการ

 โดยก่อนหน้านี้เมื่อเช้าเช้าวันเดียวกัน พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1บก.ป. นำกำลังตำรวจพร้อมหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง จ 401/59 ลงวันที่ 27 มิ.ย. จับกุมพ.ต.ท.บรรยินได้ที่รีสอร์ททาวน์ สแคว สวีทที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขณะอยู่กับน.ส.อุรชา หรือน้องป้อนข้าว วชิรกุลฑล สาวโบรกเกอร์คนสนิท

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ กระทั่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าควรพิจารณาออกหมายจับพ.ต.ท.บรรยิน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้

http://www.khaosod.co.th/

สยองเวียงจัน! หนุ่มเคาะเรียกแฟนไม่ยอมเปิด พองัดห้องดูถึงผงะ แฟนเป็นศพผูกคอตาย

 เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 มิ.ย. หน่วยกู้ภัยมูลนิธิ 1623 รับแจ้งมีเหตุคนผูกคอตายที่บ้านหนองไฮ เมืองหาดซายฟอง นครหลวงเวียงจัน สปป.ลาว รุดไปตรวจสอบพบศพผู้หญิงสวมชุดนอนสีเทา ใช้เชือกผูกคอติดกับหน้าต่างในห้องเช่า สอบถามทราบว่าผู้ตายเคยแต่งงาน และหย่าร้างกับสามี มีลูกด้วยกัน 1 คน ต่อมาผู้ตายมีแฟนใหม่และอยู่ด้วยกัน

 โดยก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงทะเลาะกัน ฝ่ายชายหนีกลับไปบ้าน จนกระทั่งเช้าวันที่ 27 มิ.ย. ฝ่ายชายกลับมาที่ห้องเช่า คิดว่าผู้ตายคงสงบสติอารมณ์แล้ว เมื่อเคาะประตูห้องไม่มีเสียงตอบรับ คิดว่าคงออกไปทำงาน จึงโทรศัพท์หาเพื่อน แต่ก็ไม่มีใครพบเห็นมาทำงาน ด้วยความสงสัยจึงให้ผู้อยู่ใกล้ห้องเช่าไปช่วยดู แต่ก็เงียบ จึงช่วยกันงัดหน้าต่างหลังห้อง พบผูกคอตายแล้ว ส่วนสาเหตุและแรงจูงใจก่อเหตุ อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่

ทอ.ปูนบำเหน็จ 8 ขั้น รับพระราชทานเครื่องราชฯ “นักบิน-ช่างเครื่อง” ฮ.ตก จัดพิธีอย่างสมเกียรติ

 เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ พล.อ.ต.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงกรณีที่เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 6 (UH-1H) หมายเลข 22/12 หน่วยบิน 2034 สังกัด ฝูงบิน 203 กองบิน 2 จ.ลพบุรี ขาดการติดต่อกับภาคพื้นในขณะปฏิบัติภารกิจลำเลียงทางอากาศ ส่งสิ่งอุปกรณ์ ณ บริเวณสถานีโทรคมนาคมเขาชะเมา จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. เวลาประมาณ 13.40 น. ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดศูนย์ค้นหาและช่วยชีวิตพบเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าว พร้อมร่างนักบินและช่างเครื่อง ประกอบด้วย น.ต.พสิษฐ์ เตชะเสน นักบิน (เตรียมทหารรุ่นที่ 41) รอ. อลงกรณ์ จันทร์กระจ่าง นักบิน (เตรียมทหารรุ่นที่ 46) และ พ.อ.อ.วิสุทธิ์ พุทธรักษา เจ้าหน้าที่ช่างประจำเฮลิคอปเตอร์ จากความสูญเสียดังกล่าว พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัว และญาติของผู้เสียชีวิต และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเรื่องสิทธิกำลังพล มอบให้แก่ญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต

 โดยสิทธิกำลังพลที่จะได้รับทั้ง 3 นาย การปูนบำเหน็จพิเศษ 8 ขั้น ได้รับพระราชทานยศและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 1.น.ต.พสิษฐ์ เตชะเสน เป็น พล.อ.ท. เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.) 2.ร.อ.อลงกรณ์ จันทร์กระจ่าง เป็นน.อ. เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.) 3.พ.อ.อ.วิสุทธิ์ พุทธรักษา เป็น พล.อ.ต.เครื่องราชอิสริยาภรณ์ จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.)

 พล.อ.ต.พงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของเงินสงเคราะห์ข้าราชการเสียชีวิต ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการรวม โดย น.ต.พสิษฐ์ ได้รับเงินสงเคราะห์ 3,009,831 บาท ร.อ.อลงกรณ์ ได้รับเงินสงเคราะห์ 2,532,083 บาท และพ.อ.อ.วิสุทธิ์ ได้รับเงินสงเคราะห์ 2,762,661 บาท ซึ่งในวันนี้ทางกองทัพอากาศ จัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130) นำร่างของนักบินและเจ้าหน้าที่ช่างประจำเฮลิคอปเตอร์ผู้เสียชีวิต จากสนามบินอู่ตะเภา มายังท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยคาดว่าจะถึงบน.6 ในช่วงเวลา 21.30 น. จากนั้นจะนำไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารหารอากาศ และรอกำหนดการประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

http://www.khaosod.co.th/

รวบคาบ้าน!เจ้าแม่เงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหดพิษณุโลก ยึดโฉนดที่ดิน-ทะเบียนรถ-บัตรเอทีเอ็มอื้อ

 เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก นำกำลังทหาร ตำรวจ กว่า 20 นาย บุกเข้าตรวจสอบบ้านหรู เลขที่ 193 ถนนพุทธบูชา ริมแม่น้ำน่าน เหนือวัดจันทร์ตะวันออก ต.ในเมือง อ.เมือง พิษณุโลก หลังสืบสวนทางในลับว่าเป็นที่ปล่อยเงินกู้ โดยเก็บดอกเบี้ยรายวันอัตราสูงเกินกว่ากฎหมายที่กำหนด โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าย่านตลาดนัดไนท์บาร์ซาและศูนย์การค้าปทุมทอง ซึ่งได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่ามีหญิงรายหนึ่ง ซึ่งมีลูกสาวทำงานธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก โดยปล่อยเงินกู้รายนี้จะรับจำนองที่ดิน ในอัตราดอกเบี้ยอัตราสูง

 เบื้องต้นทหารและตำรวจ ได้ตรวจสอบ พร้อมอายัดและยึดโฉนดทะเบียนรถยนต์ และบัตรเอทีเอ็มจำนวนมาก ควบคุมเจ้าแม่เงินกู้ไปดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมือง พิษณุโลกทันที เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

พล.ต.นพพร กล่าวว่า การบุกค้นบ้านเจ้าแม่เงินกู้ครั้งนี้ เป็นไปตามมาตรการกวาดล้างผู้มีอิทธิพล จนมีการสืบทราบว่า มีการกระทำทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ทั้งๆที่รู้ว่า รัฐบาลคสช.ไม่ต้องการเห็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่ยอมหยุด จึงสั่งการให้ตำรวจดำเนินคดีตามข้อหา คือ 1.ดำเนินธุรกิจออกเงินกู้โดยไม่ได้รับอนุญาต 2. เรียกอัตราดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด 3.ยึดบัตรเอทีเอ็มของผู้อื่น ถือว่า ผิดกฎหมาย จึงควบคุมตัวเจ้าแม่เงินกู้ ผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมอายัดบัญชีหลักฐานที่มาจำนอง จำนำทั้งหมดเพื่อเชิญเจ้าของมาสอบสวนอีกครั้ง ส่วนบ้านและรถยนต์ของเจ้าแม่เงินกู้คนดังกล่าวจะต้องตรวจสอบทรัพย์สินว่าได้มาถูกต้องหรือไม่

 เบื้องต้นจากการสอบสวนเจ้าแม่เงินกู้คนดังกล่าว ให้การรับสารภาพว่า ปล่อยเงินกู้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าในเมืองพิษณุโลก อ้างว่าเลิกไม่ได้ ถึงแม้รู้ว่าทหารสั่งห้าม จึงดำเนินธุรกิจปล่อยเงินกู้อย่างต่อเนื่องกระทั่งทุกวันนี้













http://www.khaosod.co.th/

สุดแค้นเพื่อนแอบเป็นกิ๊กกับแฟน หนุ่มคว้าปืนยิงไม่ยั้งดับสยองคาร้านอาหาร

 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. พ.ต.ท.ปิยพงษ์ วงศ์เกตุใจ สารวัตร (สอบสวน) สภ.บานโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตภายในร้านอาหาร ริมถนนสายโคกสูง-ไผ่สามเกาะ หมู่ที่ 2 บ้านสระสี่มุม ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ ผกก. พ.ต.ท.สรายุทธ บุรีวชิระ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุภาชัย สูงทรัพย์ไพศาล สว.สส. กำลังชุดสืบสวน และมูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี

 ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากยืนมุงอยู่โดยรอบร้านผัดไทย พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบริเวณภายในร้านข้างโต๊ะม้าหิน พบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมา นายสมพร หรือ ต้น ชื่นขำ อายุ 23 ปี บ้านอยู่หมู่ที่ 5 ต.เขาขลุง ในสภาพถูกยิงเข้าที่มือ ลำตัว และต้นขา รวม 7 นัด ห่างออกไปพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 8 ปลอก และหัวกระสุนอีกจำนวนหนึ่งตกอยู่ ส่วนผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่าคือนายไกรวิช หรือ เต๋า แก้วบรรจงกิจ อายุ 23 ปี บ้านอยู่หมู่ที่ 8 บ้านโคกสูง ต.หนองปลาหมอ ซึ่งหลังก่อเหตุหลบหนีไป

สอบสวนทราบว่า นายสมพรทำงานเป็นพนักงานโรงงานเซรามิกแห่งหนึ่ง ซึ่งในวันนี้หยุดงาน จึงมานั่งอยู่ภายในร้านดังกล่าวซึ่งเป็นร้านของเพื่อน ต่อมาประมาณ 10 นาที ขณะที่นายสมพรกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่นั่น นายไกรวิชเดินเข้ามาหาพร้อมกับอาวุธปืน จากนั้นเอ่ยปากถามว่า “อยากจะมีเรื่องเหรอ อยากตายใช่มั๊ย” นายสมพรจึงตอบกลับไปว่า “ไม่อยากมี” ทันใดนั้น นายไกรวิชก็ยกปืนขึ้นมาแล้วกระหน่ำยิงใส่นายสมพรไม่ยั้ง จนนายสมพรล้มลงกับพื้นเสียชีวิต จากนั้น นายไกรวิชก็หลบหนีไป ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

 ด้านเจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า ปมสังหารในครั้งนี้เกิดจากเหตุชู้สาว เนื่องจากนายสมพร และนายไกรวิช รู้จักกันตั้งแต่สมัยถูกจับอยู่ในเรือนจำ ต่อมานายสมพรพ้นโทษออกมาเมื่อ 2 ปีก่อน แต่กลับเข้ามาพัวพันอยู่กับแฟนสาวของนายไกรวิช จนกระทั่งนายไกรวิชพ้นโทษเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แล้วทราบข่าวถึงความสัมพันธ์ของคนทั้ง 2 จึงสร้างความเจ็บแค้นใจที่ถูกเพื่อนหักหลัง กระทั่งทนไม่ไหว ตัดสินใจพกปืนเดินเข้าไปเหนี่ยวไกสังหารระบายความแค้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งทีมสืบสวนเร่งออกตามล่าตัวนายไกรวิชตามสถานที่ต่างๆ ที่คาดว่าจะหลบหนี เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

http://www.khaosod.co.th/

สาวเซ็กซี่โชว์สแกน 3D ที่แท้คือ"เซ็กซี่ไซบอร์ก"สาวนักแฮกเกอร์ชื่อดัง

 หลังจากที่เว็บไซต์ต่างประเทศรายงานเรื่องราวของหญิงสาว sexycyborg นักแฮกเกอร์ชื่อดังได้เผยขั้นตอนการผลิตสร้างแบบจำลองสุดเซ็กซี่ของตัวเอง โดยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีสแกนเนอร์ 3 มิติ แบบแสงเลเซอร์หรือแสงที่มีรูปแบบ (Structured Light) ผ่านเครื่องโปรเจคเตอร์ 8 ตัว และกล้อง 16 ตัว ของบริษัทอีซัน (ESUN) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตแบบจำลองจากเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีนนั้น

อ่านข่าว:มาดูนางฟ้าใช้เทคโนโลยีถ่ายแบบสามมิติ สร้างหุ่นจำลองสุดเซ็กซี่ ใครอยากได้บ้าง!

 สำหรับหญิงสาวรายนี้เคยเป็นข่าวโด่งดังในอดีต เพราะเว็บไซต์มิร์เรอร์รายงานว่า สาวคนนี้โพสต์ลงเว็บอิมเมจเจอร์ โดยใช้นามแฝงว่า "เซ็กซี่ไซบอร์ก" และอ้างว่าตนมาจากเมืองฝอซาน ประเทศจีน โดยเธอยังอธิบายไปว่าอาวุธ (ไม่) ลับที่สำคัญชิ้นหนึ่งของเธอก็คือรองเท้าส้นเข็มที่ใส่อยู่นั่นแหละ เพราะในนั้นเธอซ่อนอุปกรณ์ไฮเท็คที่สามารถเจาะระบบคอมพิวเตอร์ไว้มากมาย เลยทำให้ยากที่จะเป็นเป้าสายตาของศัตรู สิ่งที่ต้องทำก็มีแค่ หาทางเข้าไปในสำนักงานของศัตรูเท่านั้น จากนั้นก็เอาเครื่องมือออกมาจากรองเท้าแล้วลงมือปฏิบัติการ

  "ฉันว่ามันคงมีบางโอกาสบ้างแหละที่หนุ่มๆจะชวนฉันไปออฟฟิศ หลังจากนั่งจิบเครื่องดื่มกันชิวๆเสร็จแล้ว แต่ถ้าฉันใช้กระเป๋าถือมันก็จะดูน่าสงสารไป ครั้นจะใช้มือถือวางไว้ที่ประตูก็ดูธรรมดาไปหน่อย" สาวแฮ็คเกอร์กล่าว และว่า "ส่วนเสื้อผ้าที่ฉันสวมอยู่ก็ไม่มีที่พอให้ซ่อนข้าวของได้ เพราะฉะนั้นจะไม่มีใครสงสัยฉันหรอก"

 เธอยังอธิบายอีกด้วยว่าในรองเท้าเธอมีอุปกรณ์อะไรซ่อนไว้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นแท่งยูเอสบีที่สามารถเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์แล้วบันทึกการพิมพ์ได้ทุกตัวอักษร จะจดจำรหัสผ่านต่างๆหรือข้อมูลอื่นๆก็ยังได้ นอกจากนี้ยังมีปากกาอีกแท่งซึ่งไม่ใช่ปากกาธรรมดา แต่เป็นเหมือนตัวล้วงข้อมูลเช่นกัน ที่พอต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์แล้ว จะทำให้เธอสามารถเข้าถึงข้อมูลของคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นได้จากระยะไกล

 ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีใครรู้ชื่อ-สกุลที่แท้จริงของแฮ็คเกอร์สาวคนนี้ เพราะเธอยังไม่ยอมบอก แต่เธอยังปิดท้ายโพสต์ด้วยข้อความที่ก่อให้เกิดกระแสวิจารณ์ไปทั่วว่า "จำไว้ให้ดีนะสาวๆ ถ้าพวกเธอคิดที่อยากจะเป็นผู้สร้าง หรือทำอะไรเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แล้วล่ะก็ ...ถ้าผู้หญิงอย่างฉันยังทำได้ แล้วพวกเธอที่เหลือล่ะ จะไปยากอะไร?"

 แฮกเกอร์สาว sexycyborg อธิบายว่า เครื่องสแกนใช้เวลาประมาณ 2 วินาทีในการสแกน 1 ครั้ง โดยกล้องจะจับทุกๆการเคลื่อนไหว ก่อนนำแบบไปสร้างตัวการ์ตูนสามมิติรูปตัวเองแบบสุดเซ็กซี่อย่างที่นำภาพมาฝากกันนั่นเอง  ต้องขอบคุณเทคโนโลยีใหม่ๆที่ทำให้เราเห็นอะไรแปลกๆและน่าสนใจแบบนี้

http://www.khaosod.co.th/